FORD BRONCO รถยนต์ออฟโรด SUV ที่ได้รับการออกแบบมาให้มีความทนทาน เหมาะกับการขับขี่บุกตะลุยไปตามภูมิประเทศที่มีความสมบุกสมบันรวมถึงทางวิบากต่าง ๆ โดยเน้นให้มีการขับขี่ปลอดภัยด้วยการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ เช่น ระบบกันสะเทือนแบบไฮดรอลิก ยางรถยนต์ที่สามารถเลือกได้ตามสภาพท้องถนนที่ต้องขับขี่ กันชนเหล็กอันแข็งแรง และอื่นๆ อีกมากมาย
ดีไซน์อันเป็นจุดเด่นทั้งภายนอกภายใน
FORD BRONCO ในอดีตเคยเป็นรถออฟโรด SUV แบบ 2 ประตูที่สร้างมาเพื่อเป็นคู่แข่งกับ JEEP และได้หยุดสายการผลิตไปเมื่อปี ค.ศ 1996 เพราะไม่ได้รับความนิยมเท่าที่คาดไว้ เวลาผ่านมาราวๆ 24 ปี ในปี 2020 ฟอร์ดก็ได้นำรถยนต์รุ่นนี้กลับมาพัฒนาและผลิตใหม่อีกครั้งในเจเนอเรเชั่นที่ 6 เพื่อเป็นทางเลือกของผู้ขับขี่ที่สนใจรถยนต์ SUV สไตล์ออฟโรด
จุดเด่นของฟอร์ดโฉมใหม่คราวนี้คือ มีทั้งรุ่น 2 ประตูและรุ่น 4 ประตู ให้เลือก รวมทั้งงานออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ทั้งภายในและภายนอก
สำหรับภาพรวมการการออกแบบภายนอกก็ยังคงเก็บรูปทรงเหลี่ยมรอบคันให้ความรู้สึกเหมือน BRONCO สมัยแรกเริ่มและได้มีการพัฒนาการใช้งานเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ เช่น การออกแบบหลังคาที่เรียกว่ารูฟแร็คชนิดที่สามารถติดตั้งรูฟเต็นท์สำหรับพักแรมตามสถานที่ทางธรรมชาติ โต๊ะปิกนิกพับเก็บได้ พื้นยางในห้องโดยสารที่ทำความสะอาดง่ายกับพื้นที่เก็บสัมภาระ รวมถึงอินเวอร์เตอร์ 400 วัตต์ เพื่อจ่ายไฟในการใช้อุปกรณ์ต่างขณะตั้งแคมป์ พิเศษคือ ไฟราว LED แบบ FLOODLAMPS ที่ฝาประตูท้าย กับการส่องสว่างราว 12 ตารางเมตร ช่วยเพิ่มความสะดวกในยามค่ำคืนที่และช่วยสร้างบรรยากาศการสบายๆ ในช่วงเวลาใกล้ชิดธรรมชาติได้ด้วย
ในส่วนของภายในห้องโดยสารจัดวางอุปกรณ์หลักๆ ที่จำเป็นแบบเรียบง่าย คอนโซลสไตล์มินิมอล พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานครบครัน เช่น จอดิจิตอลบอกข้อมูลหลังพวงมาลัย ด้านข้างเป็นมาตรวัดอนาล็อก ระบบอินโฟเทนเมนท์ทำงานผ่านทัชสกรีนขนาด 12 นิ้ว รองรับการใช้งานไร้สายทั้งระบบ ANDROID กับ APPLE ด้านล่างมีปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศ และฟังกชั่นอีกมากมายสำหรับการออกไปท่องโลก
สเปคเครื่องยนต์และสมรรถนะของ ALL NEW FORD BRANCO 2020
FORD BRONCO จะมี 2 รุ่นให้เลือกคือ แบบ 2 ประตูและ 4 ประตู ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ Bronco มีการออกแบบตัวรถ 4 ประตูให้เลือกและยังมีรุ่นย่อยๆ ให้เลือกอีกคือ รุ่นที่ถอดหลังคาหรือประตูได้เพื่อเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ ได้ตามต้องการ
ทางด้านเครื่องยนตร์ก็จะมีเครื่องยนต์เบนซินให้เลือก 2 ขนาด คือ ECOBOOST 6 สูบ ขนาด 2.7 ลิตร กำลังสูงสุด 310 แรงม้ากับ ECOBOOST 4 สูบ ขนาด 2.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 270 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ 2 แบบ คือธรรมดา 7 สปีด และอัตโนมัติ 10 สปีด และมีแพดเดิลชิฟท์บนพวงมาลัย
โดยรวมแล้วเป็นรถออฟโรดที่เน้นด้านสมรรถนะในการลุยแบบเส้นทางหนักๆ บอดี้สามารถถอด-ปรับ เลือกออพชั่นติดตั้งเพิ่มเติมได้คล้ายฟังก์ชั่นรถจี๊ปพร้อมตัวช่วยในการขับโหมดต่างๆ พิเศษ เพื่อให้ลุยได้ทุกรูปแบบ เช่น NORMAL, ECO, SAND และ ROCK CRAWL สำหรับขับปีนไต่โขดหิน เป็นต้น
เทคโนโลยีและความปลอดภัย
ด้านความปลอดภัยในการขับขี่บุกตะลุยไปตามเส้นทางสุดโหดหรือถนนทั่วไป FORD BRONCO ก็มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีเพื่อผู้ขับขี่ เช่น ชุดระบบขับเคลื่อน 4×4 ที่สามารถเลือกติดตั้งได้ 2 แบบ แบบแรกจะมีเกียร์ทรานสเฟอร์ 2 จังหวะติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มีออพชั่นเป็นเกียร์ทรานสเฟอร์ 2 จังหวะแบบอิเลกทรอนิกส์ พร้อมฟังก์ชั่นให้เลือกความเหมาะสมโดยอัตโนมัติ เมื่อขับในถนนสภาพปกติบนถนนหลวงหรือทางฝุ่นที่ไม่มีเนินชัน กับอีกแบบหนึ่งที่เรียกว่า 4H ออกแบบมาเพื่อการขับขี่บนพื้นผิวที่เปียกลื่น ถนนลูกรัง หรือขณะที่มีฝนตกหนักๆ อีกทั้งยังสามารถลุยน้ำได้ลึกสุด 599 มม.
นอกจากนี้ยังมีระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระ ส่วนระบบรองรับด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงก์ ติดตั้งคอยล์สปริงพร้อมจุดยึดห้าตำแหน่งที่ด้านหลัง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมระบบคอนโทรลการหยุด-ออกตัวและควบคุมรถให้อยู่กลางเลน ระบบที่ช่วยหลบหลีกการชนจากด้านหน้า และระบบสั่งการนำทางด้วยเสียง เหล่านี้เป็นต้น ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการขับขี่อเนกประสงค์หรือการใช้งานลุยพื้นที่ภูมิประเทศโหดๆ ก็ทำให้มั่นใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้น
