NISSAN ARIYA (นิสสัน อริยะ) เป็นรถเอสยูวีที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าหรือ EV 100% โดยค่ายรถยนต์นิสสันมอเตอร์ ซึ่งได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่นเมื่อช่วงกลางปี 2563 ที่ผ่านมา คาดว่าจะเริ่มทำตลาดในญี่ปุ่นภายในปี 2564 นี้ และมีแผนจะเข้ามาจำหน่ายในไทยประมาณปี 2565 ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ขับขี่ที่สนใจรถไฟฟ้าที่กำลังจะกลายเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในอนาคต ครั้งนี้จึงมีเรื่องราวของนิสสัน อริยะ มาฝากดังนี้
แนวคิดในการออกแบบและคอนเซปของ NISSAN ARIYA
NISSAN ARIYA รถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้ากับการดีไซน์ภายใต้แนวคิด TIMELESS JAPANESE FUTURISM จุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้คือ เป็นรถเอสยูวีครอสโอเวอร์ที่ภายนอกดูเรียบง่ายไม่หวือหวาแต่เปี่ยมไปด้วยความทรงพลัง และมีให้เลือก 2 รุ่นได้แก่ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อกับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ
สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ (มอเตอร์เดียว) มีความจุแบตเตอรี่ 63 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ให้กำลัง 300 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม ในระยะเวลา 7.5 วินาที อัตราความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. ระยะทางที่วิ่งได้จากการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งคือ 450 กม.
ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ALL WHEEL DRIVE (มอเตอร์หน้า-หลัง) มีความจุแบตเตอรี่ 87 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ให้กำลัง 600 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม ในระยเวลา 5.1 วินาที อัตราความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. ระยะทางที่วิ่งได้จากการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งสูงสุดถึง 580 กม. (มาตรฐานการทดสอบ WLTP ประเทศญี่ปุ่น)
รูปโฉมภายนอกกับภายในและรายละเอียดที่น่าสนใจ
สำหรับรูปโฉมภายนอกของNISSAN ARIYA จะเป็นรถยนต์ดีไซน์เอสยูวีแบบ 4 ประตู ที่มีความโฉบเฉี่ยวในลักษณะของรถยนต์อเนกประสงค์สามารถบรรทุกสัมภาระได้ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายเพื่อการเดินทางอย่างสะดวกไม่ว่าจะเป็นระยะทางใกล้หรือไกล โดดเด่นกับกระจังหน้าแบบ 3D ขนาดใหญ่ พร้อมโลโก้ NISSAN แบบใหม่อยู่ตรงกลาง
ด้านความหรูหราของห้องโดยสารภายในก็มีการออกแบบอย่างกว้างขวางให้มีบรรยากาศเสมือนห้องรับรองหรือเลาจน์สุดหรูพร้อมเบาะนั่งแบบ ZERO GRAVITY ผสมผสานความคลาสสิกกับแผงคอนโซลทำจากไม้ซึ่งถือเป็นงานแฮนด์เมดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบญี่ปุ่นที่สวยงาม มีเทคโนโลยีความทันสมัยจากหน้าจอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว บวกับดีไซน์แผงหน้าทั้งหมดที่ให้บรรยากาศเหมือนไฟในอวกาศและดาวหางบนท้องฟ้ายามค่ำคืน อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับพื้นที่พักแขนตรงกลางขนาดใหญ่ระหว่างผู้ขับขี่กับคนที่นั่งข้างๆ เพื่อความสะดวกสบายและประโยชน์การใช้งานที่ครบครันสูงสุด ที่สำคัญอีกอย่างคือเทคโนโลยีระบบการขับขี่อัตโนมัติและระบบผู้ช่วยเหลือเสมือนจริงด้วย
เทคโนโลยีผู้ช่วยขับขี่เพื่อรองรับการขับขี่แห่งโลกอนาคต
นอกจากจะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เต็มไปด้วยความทันสมัยแล้วNISSAN ARIYAยังให้ความสำคัญกับการขับขี่เพื่ออนาคตโดยมีระบบผู้ช่วยขับขี่อัตโนมัติหรือ PROPILOT 2.0 ภายใต้แนวคิด NISSAN INTELLIGENT MOBILITY ซึ่งเป็นการผสมผสานเทคโนโลยียานพาหนะไฟฟ้าขั้นสูงเข้ากับการเชื่อมต่ออินเทอร์เฟซระหว่างเครื่องจักรกับผู้ขับขี่รถยนต์ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่แห่งความสะดวกสบายให้การขับขี่ยานยนต์อันแสนพิเศษและปลอดภัยยิ่งขึ้นกว่าเดิมผ่านการทำงานแบบรีโมท (PROPILOT REMOTE PARK)
และที่เป็นไฮไลท์อีกอย่างคือระบบกุญแจอัจฉริยะที่สามารถใช้สัญญาณตรวจจับว่ามีคนขับอยู่หรือไม่ อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบสถานะของแบตเตอรี่รถยนต์ ใช้กำหนดจุดหมายปลายทางและวางแผนเส้นทางได้อย่างอัจฉริยะระบบจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาออกเดินทางเพื่อให้แผนการเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น โดยในขณะขับรถก็จะมีระบบตรวจสอบสภาพถนนรวมทั้งแนะนำเส้นทางเพื่อลดเวลาการเดินทางให้สั้นลงได้ ภายใต้ระบบการเชื่อมต่อที่เรียกว่า NISSAN CONNECT ซึ่งถือเป็นการออกสำหรับรถยนต์แห่งอนาคตที่เกิดขึ้นแล้วจริงๆ
คุณสมบัติที่จะขาดไปไม่ได้อีกอย่างคือ ด้านความปลอดภัย จึงมีทั้งอุปกรณ์และเทคโนโลยีต่างๆ เช่น NISSAN SAFETY SHIELD กับระบบกล้องอัจฉริยะที่จับภาพได้รอบทิศทาง 7 ตัว ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า ระบบเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย รวมถึงเทคโนโลยีขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อการลดความเครียดของผู้ขับขี่ด้วย
ล่าสุดในเดือนมิถุนายน 2021 ที่ประเทศญี่ปุ่นเริ่มมีการเปิดจองและพรีออเดอร์รถยนต์รุ่นนี้แล้ว แม้ว่าจะล่าช้ากว่าแผนการที่วางไว้ในตอนแรกแต่ก็ได้รับความสนใจจากผู้ขับขี่ไม่น้อย เนื่องจากเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เน้นความสะดวกสบายในการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ส่วนเมืองไทยคงต้องรอกันต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง
