Audi e – tron หนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ทางAudi เปิดตัวไปเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา และสำหรับ รถยนต์ไฟฟ้าAudi e – tron เปิดตัวมาพร้อม 2 รุ่นย่อย ได้แก่Audi e-tron Sportback 55 quattro S line และ Audi e – tron 55 quattro ซึ่งทั้ง 2 รุ่นเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่งจึงทำให้รถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้มาพละกำลังที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว และที่สำคัญดีไซน์ภายนอกยังแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะรุ่นAudi e-tron Sportback ที่ท้ายรถจะมีความลาดตามสไตล์ของ Sportback
Audi e – tron รถยนต์ไฟฟ้าที่ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 408 แรงม้า
รถยนต์ไฟฟ้าAudi e – tron ทั้ง 2 รุ่นย่อยจะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่งที่จะติดตั้งอยู่ที่บริเวณเพลาหน้า และเพลาท้ายของตัวรถ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า 125 กิโลวัตต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลัง 190 แรงม้า 140 กิโลวัตต์ และเมื่อมอเตอร์ทั้ง 2 ตำแหน่งทำงานร่วมกันจึงทำให้รถรุ่นนี้มีกำลังสูงสุด 360 แรงม้า 265 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 561 นิวตันเมตร แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นคือAudi e-tron Sportback 55 quattro S line และAudi e – tron 55 quattro มาพร้อม Boost Mode จึงทำให้สามารถรีดกำลังได้สูงสุดถึง 408 แรงม้า 300 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุดใน 664 นิวตันเมตรเลยทีเดียว
ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ (Single gear) ขับเคลื่อนสี่ล้อ (quattro) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.6 วินาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน boost mode ภายใน 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ 200 กม. / ชม. และในส่วนแบตเตอรี่ของ รถไฟฟ้าอาวดี้ รุ่นนี้มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ขนาด 95 kWh ระยะทางขับเคลื่อนต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้งประมาณ 463 กิโลเมตร สำหรับรุ่นAudi e-tron Sportback (มาตรฐาน NEDC) และ 452 สำหรับรุ่นAudi e – tron 55 quattro และสำหรับพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้าทั้ง 2 รุ่นย่อยมีพื้นที่เท่ากันคือ 60 ลิตร พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง 660 ลิตร สำหรับAudi e – tron 55 quattro และ 615 – 1665 ลิตร สำหรับ 55 quattro S line ซึ่งรุ่นดังกล่าวคุณจะสามารถเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บสัมภาระได้ด้วยการพับเก็บเบาะด้านหลัง
2023Audi e – tron ราคายังดีไม่แพ้ช่วงเปิดตัว
สำหรับปี 2023 นี้ ราคาของ รถยนต์ไฟฟ้าAudi e – tron ยังคงมีราคาที่น่าสนใจไม่แพ้ช่วงเปิดตัว โดยAudi e-tron ราคา 5,299,000 บาทสำหรับรุ่น e-tron 55 quattro และ 5,499,000 บาท สำหรับ e-tron Sportback 55 quattro S line ซึ่งราคาดังกล่าวเป็นราคาสำหรับช่วงเดือนมิถุนายน 2023 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ระบบข้อมูลและความบันเทิงของทั้ง 2 รุ่นก็ให้มาแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ, จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว, ระบบ MMI Navigation plus with MMI touch response พร้อมจอแสดงผลแบบสัมผัส ขนาด 10.1 นิ้ว (จอกลาง), จอควบคุมมัลติฟังก์ชันแบบสัมผัส พร้อมตอบสนองการสั่งงาน (haptic feedback) ขนาด 8.6 นิ้ว (ติดตั้งเหนือเกียร์) และเพิ่มความหรูหราด้วยไฟเรืองแสงในห้องโดยสาร (Contour/ambient lighting) เป็นต้น สุดท้ายคือในส่วนของสีตัวรถแต่ละรุ่นมีให้เลือก 5 สี โดยรุ่น e-tron 55 quattro จะประกอบไปด้วยGlacier white, Floret silver, Mythos black, Typhoon grey และ Galaxy blue และสำหรับ e-tron Sportback 55 quattro S line ประกอบไปด้วย Glacier white, Floret silver, Mythos black, Daytona grey และ Plasma blue
10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ18 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023
สนามยิงปืนพัทยา BATTLEMOUSE PATTAYA สนามยิงปืนที่ทันสมัยที่สุดในพัทยา
